หลังสัมภาษณ์ผู้หญิงกว่า
6 หมื่นคน นักวิจัยจากสวีเดน พบว่า ผู้หญิงที่ดื่มชา อย่างน้อยวันละ 2 แก้ว
ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งรังไข่ลงได้
นักวิจัยสถาบันคาโรลินสกา ได้สัมภาษณ์ผู้หญิง 61,057 คน อายุระหว่าง
40-76 ปี เกี่ยวกับนิสัยการกินและการดื่ม ในช่วงปี 2530-2533
หลังจากนั้นติดตามสัมภาษณ์อีกครั้ง จนถึง เดือนธันวาคม 2547 พบว่า มี 301
คน ที่เป็นมะเร็งรังไข่ จากการศึกษานี้เห็นว่าผู้หญิงที่ดื่มชาวันละ 2 แก้ว
หรือมากว่านั้น เมื่อเทียบกับคนที่ไม่ดื่มชา
กลุ่มเหล่านี้จะช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งรังไข่ได้ 46%
กลุ่มที่ดื่มชาวันละแก้ว ลดความเสี่ยงลง 24% ในขณะที่กลุ่มที่ไม่ดื่มชา
ปัจจัยเสี่ยงลดลง 18%
ซูซานนา ลาร์สลัน หัวหน้าคณะนักวิจัยกล่าวว่า
ไม่พบความเชื่อมโยงระหว่างการดื่มกาแฟกับความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งรังไข่
แม้ก่อนหน้านี้จะมีการศึกษาหลายชิ้น ที่แสดงว่า
ชามีส่วนช่วยป้องกันมะเร็งได้หลายชนิด และสีส่วนช่วยกระตุ้นความจำ
แต่ครั้งนี้ที่เป็นครั้งแรกที่ตรวจสอบถึงความสัมพันธ์ระหว่างการดื่มชากับความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งรังไข่โดยตรง
แล้วชาอื่นๆ
มีประโยชน์อีกไหม?
ชาเขียว (Green Tea)
เป็นชาที่ชาวญี่ปุ่นนิยมดื่มกันมากว่า 5,000 ปีแล้ว และพบว่า
เป็นชาชนิดที่ให้สารสำคัญจากพืชในปริมาณสูง และได้จาก พืชในตระกูล เคเมลเลีย
ไซเนนซีส (Cemellia sinensis) สารสำคัญชนิดหนึ่งที่พบว่าให้ประโยชน์ต่อร่างกายของเรา
อย่างมากและมีปริมาณสูงในชาเขียวคือ สารที่มีชื่อว่า อิพิแกลโลเคเทชิน
แกลเลต (Epigallocatechin Gallate) หรือที่เรียกกันย่อๆ ว่า EGCG
สาร EGCGนี้ในทางเคมีจัดเป็นสารโพลี่ฟีนอลชนิดหนึ่ง
ที่มีการวิจัยกันอย่างกว้างขวาง และหลายการวิจัยก็พบว่าสาร EGCG
ดังกล่าวนี้มีประโยชน์ต่อร่างกายมากมายได้แก่
- มีส่วนช่วยในขบวนการ การกำจัดไขมันโคเรสเตอรอลในหลอดเลือดซึ่งทำให้ลดภาวะความเสี่ยงต่อโรคความดันโลหิตสูง
จากการอุดตันของไขมันในหลอดเลือด
- ช่วยในการขับสารพิษ และกำจัดอนุมูลอิสระ
จึงส่งผลในการป้องกันความเสี่ยงต่อภาวะมะเร็งและโรคความ
เสื่อมของเซลล์และอวัยวะต่างๆ ในร่างกาย
- ช่วยทำให้ร่างกายของเรารู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่า
เนื่องจากมีผลในการกระตุ้นการทำงานระดับเซลล์
นอกจากสรรพคุณดังกล่าวจากสาร EGCG ทีมีอยู่ ใน ชาเขียวแล้ว
ชาเขียวยังให้สารอื่นๆ อีกมากมายเช่น สารคลอโรฟิลด์ (Chlorophyll)
ซึ่งมีประโยชน์ต่อ ขบวนการ การสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดง และขับสารพิษ
ตกค้างออกจากร่างกายของเรา โดยทำงานร่วมกับสาร EGCG
ในการช่วยทำให้ร่างกายของเรารู้สึกดีสดชื่น
และลดความเสี่ยงจากอันตรายของสารพิษและอนุมูล อิสระ
นอกจากนั้นชาเขียวยังมีวิตามิน (Vitamins) เกลือแร่ (Minerals)
และสารอาหารจากพืชที่มีความ สำคัญต่อร่างกายอีกมากมาย
ชาจากเมล็ดกัวราน่าสกัด (Guarana
Extract Tea)
สารสกัดจากเมล็ดกัวราน่านั้น นิยมใช้เป็นประโยชน์ในคนเรามานานแล้ว
โดยเฉพาะ ในแถบประเทศอัฟริกา และอเมริกาใต้ โดยเน้นในเรื่อง
ของการให้ผลทำให้ร่างกายรู้สึกสดชื่นกระปรี้กระเปร่า จากสาร
สำคัญที่มีอยู่ในเมล็ดกัวราน่าชื่อว่า Guaranine สารสำคัญชนิดนี้
นอกจากจะให้ผลในการทำให้ร่างกายของเรากระปรี้กระเปร่าแล้ว
ยังให้ผลในการช่วยขับสารพิษตกค้างในร่างกาย ทั้งในระบบทางเดิน
อาหารและในระบบไหลเวียนโลหิต เราจะพบว่าโปรแกรมการกำจัด สารพิษ
ตกค้างในร่างกายส่วนใหญ่โดยทั่วไป จะมีสารสกัดจาก กัวราน่าอยู่ในโปรแกรมด้วยเสมอ
ดังนั้นการดื่มชาชงอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นชาเขียวหรือชาที่สกัดได ้จากเมล็ดกัวร่าน่า
จะเป็นประโยชน์ต่อร่างกายของเราอย่างยิ่ง
โดยเฉพาะผู้ที่มีสารพิษหรืออนุมูลอิสระในร่างกายมากๆ อย่างเช่น
ผู้ที่อยู่ในโปรแกรมการกำจัดไขมัน หรือลดน้ำหนัก หรือในผู้ที่ภาวะ
ความเครียดจากการทำงานสูง เพราะสารสำคัญจากชาจะช่วยใน การกำจัด
สารพิษตกค้างต่างๆ และช่วยในการปรับให้ร่างกายของ เราสามารถ
กลับคืนสู่สมดุลเดิมได้อย่างรวดเร็ว และส่งผลทำให้
เราพร้อมที่ทำงานหนักหรือเข้าสู่โปรแกรมเฉพาะต่างๆ ได้อย่าง
มีประสิทธิภาพและไม่มีอันตรายใดๆ ต่อร่างกาย
ในประเทศไทย
เรามีชามากมายสำหรับทำเป็นเครื่องดื่ม
เครื่องดื่มจากประเทศไทย มีเยอะมาก เช่น ชามะนาว ชาขิง ชาใบหม่อน ชาข่า
ชาฟ้าทะลายโจร ชาใบหนวดแมว ฯลฯ ให้คุณค่าที่ดีทั้งทางยา และทางสารอาหาร
และยังเปลี่ยนรสชาติการดื่มน้ำให้ดื่มได้มากขึ้น
แต่การเลือกดื่มน้ำชาแบบไหน อาจต้องศึกษาก่อน เพราะบางอย่างมีผลทางยา
อาจมีผลกระทบทั้งทางดีหรือไม่ดี ในทางแพทย์แผนไทย
ยังแนะนำให้ดื่มชาตามธาตุเจ้าเรือนด้วย เพื่อปรับสภาพให้สุขภาพดี