ดื่มน้ำวันละเท่าไรดี


เป็นเรื่องยากที่จะระบุปริมาณน้ำที่แต่ละคนต้องการ เพื่อทำให้ทุกอวัยวะในร่างกายยังคงทำงานได้ตามปกติ ทั้งนี้ เพราะปริมาณน้ำที่ร่างกายต้องการ ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น อายุ สภาพภูมิอากาศ ฤดูกาล กิจกรรม ชนิดของอาหารที่กิน ปริมาณของเครื่องปรุงรสและเครื่องเทศที่ใช้ในการทำอาหาร ปริมาณน้ำในอาหาร รวมถึงปริมาณของเกลือที่ได้รับในแต่ละวัน

โดยปกติแล้ว เราจะได้รับน้ำ ราว 2 ใน 3 ของปริมาณที่ร่างกายต้องการในแต่ละวัน ผู้เชี่ยวชาญจึงแนะนำว่า เราควรดื่มน้ำเพิ่ม 6-8 แก้ว ทุกวัน (1 แก้ว คือปริมาณน้ำ 180-200 ซีซี) เพื่อให้ได้รับน้ำในปริมาณที่ครบถ้วนตามที่ร่างกายต้องการ และอาจจำเป็นต้องดื่มน้ำมากขึ้นเมื่อรู้สึกเหนื่อย หรือเสียเหงื่อมาก

เราควรหลีกเลี่ยงการดื่มน้ำระหว่างการดินอาหาร เพราะมันส่งผลกระทบต่ออาหารที่กำลังเคี้ยวอยู่และการหลั่งของน้ำลาย น้ำจะไหลผ่านกระเพาะอาหารไปภายใน 5-10 นาทีหลังการดื่ม ซึ่งอาจทำให้อาหารบางส่วนที่กินเข้าไปไหลผ่านไปพร้อมกับน้ำ นอกจากนี้จะทำให้น้ำย่อยในกระเพาะอาหารเจือจางลง และอาหารไม่ได้รับการย่อยอย่างสมบูรณ์ แต่ก็ได้ผลดีหากต้องการลดความอ้วน ดังนั้นเราจึงควรดื่มน้ำเมื่อกระเพาะอาหารว่าง คือดื่มในช่วง หนึ่งถึงหนึ่งชั่วโมงครึ่ง หรือ 3 ชั่วโมง หลังอาหาร

การสังเกตสีของปัสสาวะ ก็เป็นอีกวิธีหนึ่ง ที่นิยมนำมาใช้ในการวิเคราะห์ว่าควรดื่มน้ำมากเท่าไร จึงจะเพียงพอต่อความต้องการของร่างการ ถ้าปัสสาวะสีเกือบใส หมายถึงร่าการทุกส่วนของเรามีน้ำเพียงพอแล้วแต่หากสีออกไปทางเหลือง แสดงว่าไตยองเราทำงานอย่างหนักเพื่อขจัดของเสีย เนื่องจากเลือดมีปริมาณน้ำไม่เพียงพอ

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าเราควรจิบย้ำทีละน้อย แล้วอมในปากสักครู่ เพื่อให้ผสมกับน้ำลายแล้วค่อยกลืน

 

 [ประปาไทยดอทคอม] [นานาน่ารู้] [มหัศจรรย์แห่งน้ำ]