เครื่องดื่ม
-
ชาเขียว -
สรรหาเครื่องดื่มสารพัดให้คุณเลือก
โดย ไตรรงค์ ปิมปา คนชอบดื่มเครื่องดื่มที่เป็นที่ติดอกติดใจผู้คนทุกวัย คงเป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพอย่างชาเขียว ไปที่ไหน เห็นแต่คนโน่นคนนั้นดื่มชาเขียวกันแทบทั้งสิ้น เพราะ มีประโยชน์จริงๆ มีวางขายเต็มท้องตลอดไปหมด ทั้งแบบสำเร็จรูป หรือแม้แต่ชาเขียวแบบบรรจุห่อขาวพร้อมแกะใส่กา เทน้ำร้อนดื่มได้ทันที ดังนั้น เราเลยไปค้นหาขั้นตอนและวิธีการชงชาเขียวแบบโบราณจากประเทศญี่ปุ่น มาให้เพื่อนๆ ได้รู้จักกัน เผื่อเพื่อนคนไหนสนใจจะได้ลองชงทานกันบ้าง ไม่ว่ากันนะ
มีข่าวดีสำหรับผู้ป่วยอัลไซเมอร์ทุกคน ต่อไปก็ไม่ต้องทานยาเยอะ ๆ อีกต่อไปแล้ว เพราะเพียงการดื่มชา ก็สามารถยับยั้งการเกิดโรคอัลไซเมอร์
ดร. เอ็ด โอเคลโล่ แห่งศูนย์วิจัยสมุนไพร มหาวิทยาลัยนิวคาสเซิล ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศอังกฤษ พบว่า การดื่มชาเขียวหรือชาดำวันละ 1 ถ้วยทุกวัน จะสามารถยับยั้งการเกิดโรคอัลไซเมอร์ได้ เพราะในชาเขียว และชาดำ มีสารที่ช่วยยับยั้งการเกิดปฏิกิริยาของเอ็นไซม์ที่ก่อให้เกิดโรคอัลไซเมอร์
นอกจากนี้การดื่มชาเขียวยังสามารถป้องกันการเกิดปฏิกิริยาเบต้า-ซีเครเทส (Beta-secretase) ที่เป็นขั้นตอนในการผลิตตะกอนโปรตีนในสมอง ซึ่งเป็นสาเหตุของการป่วยเป็นโรคอัลไซเมอร์ แต่จะต้องดื่มชาเขียวอย่างน้อย 1 อาทิตย์ถึงจะเห็นผลดี หากดื่มชาดำเพียงแค่ 1 วัน ก็สามารถเห็นผลได้เร็วกว่าการดื่มชาเขียวหลายเท่า
แม้แพทย์จะไม่สามารถรักษาโรคอัลไซเมอร์ให้หายได้ แต่การดื่มชาก็สามารถยับยั้งและลดภาวะเสี่ยงที่ก่อให้เกิดโรคอัลไซเมอร์ได้ รู้อย่างนี้แล้วลองหันมาดื่มชากันเถอะ แถมยังไม่มีผลเลียข้างเคียงอีกด้วย
สูตร 1 ชงชาเขียว แบบญี่ปุ่นโบราณ (Koshiki Ochakai) ส่วนผสม และอุปกรณ์
- ถ้วยชา (ทำจากเซรามิค)
- ที่ตักชา (ทำจากไม้ไผ่)
- แปรงคนชา (ทำจากไม้ไผ่)
- ที่ตักน้ำหรือกระบวยชงชา (ทำจากไม้ไผ่)
- โถน้ำ (สำหรับผสมน้ำร้อนกับน้ำเย็น)
- ผ้าขาว
- ผ้าแดง
- ชาเขียวบดละเอียด
ขั้นตอนการชงชา
- ขั้นแรกให้ทำความสะอาดอุปกรณ์ต่างๆ โดยนำไปล้างให้สะอาด
- จากนั้นนำผ้าแดงสะอาดไปเช็ดอุปกรณ์ที่ล้างไว้ในตอนแรก อย่างเช่น ที่ตักชา แปรงคนชา และที่ตักน้ำ เพื่อให้อุปกรณ์ที่จะใช้สะอาดจริงๆ
- ส่วนผ้าขาว ให้นำไปเช็ดถ้วยชาเท่านั้น
- เพื่อเช็ดอุปกรณ์ต่างๆ เรียบร้อยแล้ว นำที่ตักชา ตักผงชาเขียว ลงในถ้วย ประมาณ 1 ช้อน
- นำกระบวยตักน้ำ ลงไปตักน้ำอุ่นจัดที่ผสมไว้เรียบร้อยแล้วในโถผสมน้ำ เทลงไปในถ้วยดื่มชา
- ใช้แปรงคนชา ลงไปคนให้ผงชาและน้ำเข้ากัน เป็นอันว่าเสร็จ
- เสริฟร้อนๆ
แต่ถ้าให้เป็นแบบโบราณจริงๆ ก่อนดื่มชา ถ้าเป็นประเพณีดั้งเดิม แขกที่มาจะต้องทานขนมหวานเสียก่อน จากนั้นค่อยดื่มชาที่เจ้าบ้านยกมาให้ พูดถึงประเพณีการชงชาแบบโบราณนี้ ส่วนใหญ่ผู้หญิงญี่ปุ่นสมัยก่อนเท่านั้น ที่จะเป็นคนชงให้ และจำเป็นมากที่ต้องเรียนรู้การชงชาแบบโบราณนี้ เมื่อไว้สำหรับต้อนรับแขกคนสำคัญที่มาเยี่ยมเยียนถึงบ้าน และสามีอันเป็นที่เคารพ
ถ้าสนใจประเพณีนี้จริงๆ แล้วล่ะก้อ เห็นทีจะต้องไปเรียนการชงชาแท้แบบโบราณนี้ได้ที่ประเทศญี่ปุ่นโน้น
สูตร 2 ชงชาเขียว แบบสำเร็จรูป การชงชาให้ได้รสชาตินั้น มีเคล็ดลับ ง่ายๆ ซึ่งหากทำไม่ ดีแล้ว สารโพลีฟีนอล ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ ร่างกาย ก็อาจเป็นตัวทำลายรสชาติได้ โดยทำให้ชามีรสชาติเหมือนหญ้าไม่อร่อย ดังนั้นจึงไม่ควรต้มชานานเกิน ไป
ส่วนผสม
- ชาเขียว 1 ถุง (หรือประมาณ 2-4 กรัม)
- น้ำสะอาด 1 ถ้วย (1-2 ถ้วย ขึ้นอยู่กับชนิด ของชา)
ขั้นตอนการชงชา (3 ขั้นตอน ขั้นตอนละ 3 นาที)
- ต้มน้ำให้เดือด จากนั้นยกกาน้ำลงจากเตา ทิ้งไว้ 3 นาที
- เทน้ำร้อนลง บนถุงชา และแช่ถุงชาไว้ในน้ำร้อน 3 นาที
- นำถุงชาออก ปล่อยให้ชาเย็นลงอีก 3 นาที
- เสริฟได้ ดื่มตอนร้อนๆ เพื่อให้คุณค่า และหอมอร่อย
คำแนะนำ
- ไม่ควรเติมน้ำตาล หรือสารให้ความหวาน ท่านจะไม่ได้รสชาติที่ดีของชาเขียว และอาจทำให้มีปัญหาน้ำหนักตัวเพิ่มด้วย
- ต้มน้ำแต่พอเดือด รีบยกลง มิฉะนั้น กลิ่น "น้ำต้มสุก" จะรบกวนกลิ่นชาเขียวจนเสียรสชาติ การเลือกภาชนะต้มแบบสแตนเลส หรือแก้ว จะลดปัญหานี้ลงได้บ้าง
- พิถีพิถันกับน้ำสะอาดที่นำมาชงชา และเวลาต้มน้ำ เวลาชงชา น้ำกรองจากเครื่องกรองน้ำชั้นดีอย่างอีสปริง ทำให้ได้ชาที่เป็นต้นฉบับธรรมชาติจริงๆ หากหาไม่ได้ อาจใช้น้ำจากเครื่องแบบอาร์โอคุณภาพสูง หรือจากน้ำอาร์โอบรรจุขวดยี่ห้อที่ไว้ใจได้ ก็ทดแทนได้ อย่าลืมว่าว่าการใช้น้ำฝน น้ำจากก๊อกทั่วไป หรือน้ำบาดาล อาจทำให้รสชาติเปลี่ยนไป
สูตร 3 ชงชาเขียว แบบผง ส่วนผสม
- ชาเขียว 0.5 ช้อนชา
- น้ำสะอาด 1-2 แก้ว (ประมาณ 180-200 ซีซี/แก้ว)
ขั้นตอนการชงชา
- ต้มน้ำ แล้วยกลงจากเตา รอสัก 3 นาที หรือผสมน้ำเดือดกับน้ำสะอาดพอเป็นน้ำอุ่นจัด อาจใช้น้ำใส่แก้วชา เข้าไมโครเวฟ ไฟ 100% นาน 45 วินาที ก็ได้
- เติมน้ำร้อนลงแก้วเช็ค เติมชาเขียวครึ่งช้อนชา ปิดฝา เขย่าให้เข้ากัน 2-3 นาที
- เปิดฝาแก้วเช็ค เทชาเขียวลงแก้ว ดื่มได้เลย
คำแนะนำ
- น้ำที่เหมาะสำหรับการชงชาเขียวให้หอมคือน้ำอุ่น ค่อนข้างร้อน ประมาณว่า เมื่อชงแล้ว จะดื่มได้ทันทีไม่ต้องรอเย็น
- ระวังแก้วชา หากจะเข้าไมโครเวฟ ต้องใช้แก้ว หรือภาชนะที่ใช้กับไมโครเวฟได้เท่านั้น
เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับชาเขียว
- ชาเขียวญี่ปุ่นจะต้องออกสีเขียวเท่านั้น ถ้าออกเป็นสีอื่นๆ ถือว่าไม่ใช่ชาที่ดี ยกเว้นชาเขียวที่นำไปคั่วให้มีรสชาติและสีเหมือนชาจีน
- "กลิ่น ของชาเขียว จะต้องหอมชื่นใจ ชาที่ดีจะทิ้งกลิ่นอยู่ในปากและลำคอเป็นเวลานาน
- เวลาดื่มชาเขียวนั้น ควรจะทดลองด้วยการกลั้วที่ลิ้นก่อนค่อยกลืนลงคอ
- การชงชาจะต้องใช้น้ำร้อนอุณหภูมิ 80 องศาC ไม่เช่นนั้นจะสูญเสียวิตามินซี
- ชาดีจะมีรสชาติ หวาน-ขม-ฝาด นักชิมชาจะสามารถบอกได้ว่าชาตัวไหนดี เมื่อจิบชาแล้วรสเฝื่อนจะค่อย ๆ เคลื่อนไปตามลำคอ ถือเป็นชาที่ดี
- ควรใช้แปรงชงชาตีให้เป็นฟองละเอียดจะได้ชาที่อร่อย เนื่องจากจะละลายเข้ากับน้ำได้ดี
- สำหรับคนที่เพิ่งเริ่มดื่มชาเขียว ก่อนดื่ม ควรกินขนมหวานสักชิ้นก่อน เพื่อจะทำให้รสชาติของชาเขียวที่ดื่มพอดีกลมกล่อม
ขอบคุณข้อมูล
อ่านเพิ่มเติมที่
- ชา เพื่อสุขภาพ ป้องกันมะเร็งกระเพาะอาหาร ชะลอความแก่
- เลือกชาให้เหมาะกับคนดื่ม
- เยี่ยมไร่ชาเข้ยวที่ญี่น
> กลับหน้าแรก - เครื่องดื่ม > นานาน่ารู้ > prapathai.com
> werthai.com